กรรมการบริษัท

กรรมการบริษัท

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1150 บัญญัติว่า “ผู้เป็นกรรมการจะพึงมีจำนวนมากน้อยเท่าใด และจะพึงได้บำเหน็จเท่าใด ให้สุดแล้วแต่ที่ประชุมใหญ่จะกำหนด”

     การประชุมผู้ถือหุ้นแต่งตั้งกรรมการเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถือว่าเป็นผู้กระทำการแทนบริษัทในการจัดการ การบริหาร การดำเนินงานต่างๆให้บริษัทจำกัดมีกำไร หรือวิสัยทรรศน์ในการบริหารงาน ดังนั้น กฎหมายจึงบัญญัติให้ที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเป็นผู้เลือกคณะกรรมการ และการได้รับเงินเดือนค่าตอบแทนของกรรมการ ก็ต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นจากที่ประชุมใหญ่เช่นเดียวกัน

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1151 บัญญัติว่า “อันผู้เป็นกรรมการนั้น เฉพาะแต่ที่ประชุมใหญ่เท่านั้น อาจจะตั้งหรือถอนได้”

     จากมาตรา 1150 ที่ได้กล่าวมาแล้วว่า การเลือกกรรมการนั้นจะต้องมีมติจากที่ประชุมใหญ่จากผู้ถือหุ้นเท่านั้นเป็นผู้แต่งตั้ง แต่ถ้ากรรมการที่มาจากการตั้งบริษัท ก็ต้องอาศัยการแต่งตั้งโดยการประชุมตั้งบริษัท ตามมาตรา 1108 (6) ส่วนการเลือกตั้งกรรมการซ่อม กฎหมายให้อำนาจสภากรรมการเป็นผู้เลือกตามมาตรา 1155 ซึ่งกำหนดไว้ว่า “จะเลือกผู้อื่นตั้งขึ้นใหม่ให้เต็มที่ว่างก็ได้” ฉะนั้นหากกรรมการที่เหลือเห็นว่าไม่สมควรตั้ง กรรมการที่เหลือจะไม่ใช้อำนาจดังกล่าวก็ได้

     ส่วนการถอนกรรมการนั้น กฎหมายให้อำนาจแต่เฉพาะที่ประชุมใหญ่ของผู้ถือหุ้นเท่านั้นเป็นผู้ถอดถอนกรรมการ และยังไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ผู้อื่นถอนกรรมการได้ในกรณีใดอีก จึงต้องถือว่ากรรกมารไม่ว่าจะตั้งขึ้นโดยที่ประชุมตั้งบริษัทในฐานะกรรมการชุดแรก หรือเป็นกรรมการซึ่งที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเป็นผู้แต่งตั้งก็ตาม หากต่อมาผู้ถือหุ้นมีความประสงค์จะถอดถอนกรรมการต้องอาศัยที่ประชุมใหญ่เท่านั้น จะตั้งเรื่องฟ้องเพื่ออาศัยอำนาจศาลในการเพิกถอนกรรมการไม่ได้ เว้นแต่เฉพาะกรรมการที่เข้ามาชั่วคราวตามคำสั่งศาล มาตรา 73 ศาลก็มีสิทธิถอดถอนออกจากตำแหน่งได้

     ส่วนวิธีการแต่งตั้งกรรมการหรือคุณสมบัติของผู้จะเป็นกรรมการ อาจมีกำหนดไว้ในข้อบังคับ แต่ข้อบังคับจะกำหนดให้ผู้อื่นเป็นผู้ตั้งกรรมการนอกจากที่ประชุมใหญ่คงไม่ได้ เพราะมารตรา 1151 ต้องถือเป็นบทบังคับเด็ดขาด

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1152 บัญญัติว่า “ในเมื่อมีการประชุมสามัญครั้งแรกภายหลัง แต่จดทะเบียนบริษัทก็ดี และในเมื่อมีการประชุมสามัญครั้งแรกในปีทุกๆปีต่อไปก็ดี ผู้เป็นกรรมการต้องออกจากตำแหน่งโดยจำนวนหนึ่งในสามเป็นอัตรา ถ้าและจำนวนกรรมการจะแบ่งออกให้ตรงเป็นส่วนสามไม่ได้ ก็ให้ออกโดยจำนวนใกล้ที่สุดกับส่วนหนึ่งในสาม”

     กรรมการจะดำรงตำแหน่งนานเพียงใด ขึ้นอยู่กับข้อบังคับของบริษัท หากข้อบังคับมิได้กำหนดไว้เป็นพิเศษ ก็ให้เป็นไปตามมาตรา 1152 เว้นแต่ กรรมการออกโดยผลของกฎหมายตามมาตรา 1154

     ตามมาตรา 1152 นี้เป็นลักษณะของกรรมการออกตามวาระ ซึ่งกฎหมายบังคับให้ออกทุกครั้งที่มีการประชุมสามัญ ครั้งแรกภายใน 6 เดือนนับแต่บริษัทได้จดทะเบียน ครั้งต่อไปเมื่อมีการประชุมสามัญครั้งแรกในทุกๆปีต่อไป กรรมการต้องออกจากตำแหน่งหนึ่งในสามเป็นอัตรา คือ หมายความว่า ให้กรรมการออกใน 6 เดือนแรก จำนวนหนึ่งในสาม และครั้งต่อไปต้องออกอีกหนึ่งในสามเมื่อมีการประชุมสามัญครั้งแรกของทุกๆปี แม้ว่าจะมีการประชุมสามัญปีละสองครั้งก็ตาม แต่กรรมการจะออกตามวาระเฉพาะเมื่อมีการประชุมสามัญครั้งแรกเท่านั้น

     จำนวนกรรมการที่ต้องออก ถือเป็นหนึ่งในสามเป็นอัตราเสมอไป และถ้าจำนวนจะแบ่งออกให้ตรงเป็นสามส่วนไม่ได้ ก็ให้ออกจำนวนที่ใกล้เคียงที่สุด ตัวอย่าง เช่น ที่ประชุมตั้งบริษัทได้ตั้งกรรมการขึ้นมา 7 คน เมื่อกรรมการได้จดทะเบียนตั้งบริษัทแล้ว ภายใน 6 เดือนนับจากวันที่ตั้งบริษัทจำกัด ก็ต้องมีการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเป็นการประชุมครั้งแรก (ตามมาตรา 1171) กรรมการบริษัท ต้องออก 2 คน ครั้งต่อไปเมื่อมีการประชุมใหญ่สามัญครั้งแรกของทุกๆปี กรรมการบริษัท ก็ต้องออกไป 2 คน ในปีต่อมาเมื่อมีการประชุมใหญ่สามัญครั้งแรก กรรมการก็ต้องออกไปอีก 3 คน

     กรรมการที่ออกไปนั้น ที่ประชุมใหญ่อาจเลือกเข้ามารับตำแหน่งใหม่อีกครั้งก็ได้ ถ้าหากว่าได้รับเลือกตั้งใหม่ ก็ต้องถือว่าเป็นผู้เริ่มต้นมาเป็นกรรมการใหม่

     สรุป การเลือกกรรมการของบริษัทหรือการถอดถอน ต้องอาศัยมติที่ประชุมใหญ่ของผู้ถือหุ้นเท่านั้น ส่วนการเลือกกรรมการใหม่ในปีถัดไป สามารถเสนอชื่อกรรมการคนเดิมเข้ามาเป็นกรรมการรับตำแหน่งเดิมได้เช่นกัน

หากท่านไม่ได้รับความเป็นธรรมทางกฎหมาย ติดต่อ สำนักงานกฎหมาย อุดมคดี ที่
เบอร์ 082-583-8658
Line:@Udomkadee
Fanpage: https://www.facebook.com/UDOMKADEE