การสมรสที่เป็นโมฆียะ

https://pantip.com/topic/40515715

การสมรสที่เป็นโมฆียะ

          แม้การสมรสจะเป็นโมฆียะก็ตาม  จะใช้หลักเรื่องโมฆียกรรมตามมาตรา 175 หรือมาตรา 176 มาใช้บังคับไม่ได้ จะต้องมีการฟ้องขอให้ศาลพิพากษาให้เพิกถอนการสมรสตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1502 การสมรสที่เป็นโมฆียะ จึงจะสิ้นสุดลงผู้มีส่วนได้เสียจะบอกล้างเองไม่ได้  และเมื่อศาลมีคำพิพากษาให้เพิกถอนการสมรสแล้ว  การสมรสที่เป็นโมฆียะย่อมสิ้นสุดลง ในวันที่คำพิพากษาถึงที่สุดการสมรสที่เป็นโมฆียะ ถ้าล่วงเลยเวลาไปจนพ้นกำหนดที่จะฟ้องขอเพิกถอนแล้ว  การสมรสนั้นก็ไม่อาจจะถูกเพิกถอนได้อีกต่อไป

เหตุที่ทำให้การสมรสเป็นโมฆียะ

1. การสมรสที่ชายและหญิงอายุยังไม่ครบ 17 ปีบริบูรณ์

          การสมรสดังกล่าวเป็นโมฆียะ ผู้มีส่วนได้เสียจึงอาจร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งเพิกถอนการสมรสของชายหญิงที่อายุยังน้อยนี้ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1504   ผู้มีส่วนได้เสียได้แก่  ชายและหญิงผู้ทำการสมรสนั้นเอง บิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้รับบุตรบุญธรรมของชายหรือหญิงทำการสมรส  แต่ถ้าบิดามารดาหรือผู้ปกครองให้ความเห็นชอบโดยให้ความยินยอมในการที่ผู้เยาว์ทำการสมรสก่อนอายุครบ 17 ปีบริบูรณ์แล้ว  บุคคลดังกล่าวจะเปลี่ยนใจในภายหลังมาขอให้ศาลเพิกถอนการสมรสที่เป็นโมฆียะนี้ไม่ได้  ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์   มาตรา 1505 วรรคแรก

          ถ้าศาลมิได้สั่งให้เพิกถอนการสมรสที่เป็นโมฆียะ  เพราะเหตุที่คู่สมรสยังอ่อนอายุนี้  จนชายหญิงมีอายุครบ 17 ปีบริบูรณ์หรือหญิงมีครรภ์ก่อนอายุครบกำหนด 17 ปีบริบูรณ์กฎหมายให้ถือว่าการสมรสสมบูรณ์มาตั้งแต่เวลาสมรส  ไม่อาจมีใครมาร้องขอให้ศาลเพิกถอนได้

2. การสมรสโดยสำคัญผิดตัว

          การสำคัญผิดตัวคู่สมรสได้แก่การเข้าใจผิดในตัวบุคคล  อันเป็นผลให้มิได้ทำการสมรสกับบุคคลตามที่ตนประสงค์โดยเป็นกรณีที่มีการเปลี่ยนตัวบุคคลอีกคนหนึ่ง  หรือปลอมตัวมาแทนบุคคลอีกคนหนึ่ง

          แต่ถ้าการเป็นการสำคัญผิดในฐานะของบุคคลแล้ว  เหตุที่ความสำคัญผิดในฐานะของบุคคลนี้ไม่ทำให้การสมรสเสื่อมเสียไป  เช่น ชายสำคัญผิดคิดว่าเป็นลูกสาวเจ้าของบ้าน  จึงสู่ขอหญิงและทำการสมรสด้วยแต่ความจริงเป็นหญิงคนใช้อยู่บ้าน  อย่างนี้ไม่ใช่สำคัญผิดตัว  แต่เป็นการสำคัญผิดในฐานะของหญิง  การสมรสจึงไม่เป็นโมฆียะ  นอกจากนี้การสำคัญผิดในคุณสมบัติหรือชื่อของบุคคลก็ไม่ทำให้การสมรสเป็นโมฆียะ เช่น  ชายเคยพบหญิงชื่อนางสาวแดงที่ต่างประเทศมา 10 ปีที่แล้ว   ต่อมาพบชื่อนางสาวแดงเหมือนกันโดยสำคัญผิดคิดว่าเป็นหญิงสาวที่เคยพบที่ต่างประเทศจนในที่สุดชายได้จดทะเบียนสมรสกับนางสาวแดง  แต่ความจริงแล้วนางสาวแดงคนนี้ไม่เคยไปต่างประเทศเลย  เช่นนี้การสมรสดังกล่าวสมบูรณ์ไม่เป็นโมฆียะ

          การสมรสที่เป็นโมฆียะเพราะได้กระทำไปโดยคู่สมรสฝ่ายหนึ่งสำคัญผิดตัวคู่สมรสนั้น  เฉพาะแต่คู่สมรสที่สำคัญผิดตัวเท่านั้นที่มีสิทธิ์ขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนการสมรสได้  แต่ต้องฟ้องคดีเสียภายในกำหนด 90 วันนับแต่วันสมรสเพราะหลังจากกำหนด 90 วันไปแล้ว  สิทธิที่ขอให้เพิกถอนการสมรสเป็นอันระงับสิ้นไประยะเวลา 90 วัน  เริ่มนับตั้งแต่วันทำการสมรสมิใช่เริ่มนับเมื่อทราบการสำคัญผิดตัว

3. การสมรสโดยถูกกลฉ้อฉล

          การสมรสที่ได้กระทำโดยถูกกลฉ้อฉลอันถึงขนาด ซึ่งถ้ามิได้มีกลฉ้อฉลนั้นจะไม่ทำการสมรสแล้ว การสมรสนั้นเป็นโมฆียะตามมาตรา 1506 กลฉ้อฉลชนิดนี้ คือการลงให้เขาแสดงเจตนาสมรส เช่น ชายหลอกลวงหญิงว่าเป็นนายแพทย์ แต่ความจริงเป็นแค่บุรุษพยาบาล เช่นนี้ การสมรสเป็นโมฆียะ แต่ว่าการหลอกลวงเช่นนั้นจะต้องถึงขนาดว่าถ้าไม่มีกลฉ้อฉล เช่นนั้นจะไม่มีการสมรสเช่น ชายต้องการทายาทไว้สืบสกุลหญิงรู้ตัวว่าเป็นหมันแต่มาหลอก ว่าสามารถให้กำเนิดบุตรได้ใช้หลงเชื่อสินสมรสด้วยการสมรสนั้นเป็นโมฆียะ

          การทำกลฉ้อฉลให้มีการสมรสนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นการหลอกให้คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งทำการสมรสกับตน แต่นิ่งเฉยไม่ไขข้อความจริง ไม่ถือว่าเป็นการทำกลฉ้อฉล เว้นแต่จะเป็นพฤติการณ์นิ่ง ที่ตนมีหน้าที่บอกความจริงหรือเป็นการนิ่งประกอบกับพฤติการณ์อาจแสดงออก ซึ่งทำให้อีกฝ่ายหนึ่งส่งสำคัญผิดก็ถือว่าเป็นการกระทำโดยกลฉ้อฉลได้ กลฉ้อฉลอันถึงขนาดต้องพิจารณาจากมาตรฐานความรู้สึกของวิญญูชนที่จะไม่ทำการสมรสหากมิได้มีการหลอกลวงเช่นว่านั้น มิใช่พิจารณาจากมาตรฐานความรู้สึกของคู่สมรสที่หลอกลวงด้วยแต่อย่างไรก็ดีการให้กำเนิดบุตรไปสืบตระกูลเป็นเป้าหมายสำคัญการสมรสการหลอกลวง

4. การสมรสโดยถูกข่มขู่

          การข่มขู่ที่จะทำให้การสมรสเป็นโมฆียะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1507 จะต้องถึงขนาด ซึ่งถ้ามิได้มีการข่มขู่นั้นจะไม่ทำการสมรสโดยความเกรงกลัวจากการข่มขู่นี้  จะต้องถึงขนาดที่วิญญูชนมีมูลที่จะต้องเกรงกลัวว่าจะเกิดอันตรายหรือความเสียหาย   จึงจำเป็นต้องทำการสมรสไป  แต่อย่างไรก็ดี  ความกลัวเพราะนับถือยำเกรงไม่นับว่าเป็นการข่มขู่  เพราะฉะนั้นหากมีกรณีหญิงสมรสโดยถูกบิดามารดาของตนบังคับจะนับว่าเป็นการข่มขู่ที่ทำให้การสมรสเป็นโมฆียะไม่ได้  นอกจากนี้การขู่ว่าจะใช้สิทธิอันใดอันหนึ่งตามปกตินิยม  ก็ไม่ถือว่าเป็นการข่มขู่ หรือการขู่ว่าจะร้องเรียนผู้บังคับบัญชาเหล่านี้เป็นการขู่ว่าจะใช้สิทธิตามปกตินิยม  ไม่ถือว่าเป็นการข่มขู่การสมรสจึงไม่เป็นโมฆียะ

5. การสมรสของผู้เยาว์ที่ไม่ได้รับความยินยอมของบิดา มารดา  ผู้รับบุตรบุญธรรมหรือ ผู้ปกครอง 

          ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1510 กำหนดให้เฉพาะบุคคลที่อาจให้ความยินยอมในการที่ผู้เยาว์จะทำการสมรสได้  ซึ่งก็คือบิดามารดาผู้รับบุตรบุญธรรมหรือผู้ปกครองเท่านั้นที่มีสิทธิขอให้ศาลเพิกถอนการสมรสที่เป็นโมฆียะนี้  ตัวชายหรือหญิงผู้เยาว์ผู้ทำการสมรสเอง  ไม่มีสิทธิร้องขอให้เพิกถอนสิทธิขอเพิกถอนการสมรสของบิดา มารดา ผู้รับบุตรบุญธรรม หรือผู้ปกครองดังกล่าว เป็นอันระงับสิ้นไปเมื่อชายหญิงคู่สมรสนั้นมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์หรือเมื่อหญิงมีครรภ์แล้วการร้องขอเพิกถอนการสมรสในกรณีที่ผู้เยาทำการสมรสโดยไม่ได้รับความยินยอมนี้  มีอายุความหนึ่งปีนับแต่วันทราบการสมรส

หากท่านไม่ได้รับความเป็นธรรมทางกฎหมาย ติดต่อ สำนักงานกฎหมาย อุดมคดี ที่
เบอร์ 082-583-8658
Line : @Udomkadee
Fanpage : https://www.facebook.com/UDOMKADEE