การสมรสที่เป็นโมฆียะ
แม้การสมรสจะเป็นโมฆียะก็ตาม จะใช้หลักเรื่องโมฆียกรรมตามมาตรา 175 หรือมาตรา 176 มาใช้บังคับไม่ได้ จะต้องมีการฟ้องขอให้ศาลพิพากษาให้เพิกถอนการสมรสตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1502 การสมรสที่เป็นโมฆียะ จึงจะสิ้นสุดลงผู้มีส่วนได้เสียจะบอกล้างเองไม่ได้ และเมื่อศาลมีคำพิพากษาให้เพิกถอนการสมรสแล้ว การสมรสที่เป็นโมฆียะย่อมสิ้นสุดลง ในวันที่คำพิพากษาถึงที่สุดการสมรสที่เป็นโมฆียะ ถ้าล่วงเลยเวลาไปจนพ้นกำหนดที่จะฟ้องขอเพิกถอนแล้ว การสมรสนั้นก็ไม่อาจจะถูกเพิกถอนได้อีกต่อไป
เหตุที่ทำให้การสมรสเป็นโมฆียะ
1. การสมรสที่ชายและหญิงอายุยังไม่ครบ 17 ปีบริบูรณ์
การสมรสดังกล่าวเป็นโมฆียะ ผู้มีส่วนได้เสียจึงอาจร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งเพิกถอนการสมรสของชายหญิงที่อายุยังน้อยนี้ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1504 ผู้มีส่วนได้เสียได้แก่ ชายและหญิงผู้ทำการสมรสนั้นเอง บิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้รับบุตรบุญธรรมของชายหรือหญิงทำการสมรส แต่ถ้าบิดามารดาหรือผู้ปกครองให้ความเห็นชอบโดยให้ความยินยอมในการที่ผู้เยาว์ทำการสมรสก่อนอายุครบ 17 ปีบริบูรณ์แล้ว บุคคลดังกล่าวจะเปลี่ยนใจในภายหลังมาขอให้ศาลเพิกถอนการสมรสที่เป็นโมฆียะนี้ไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1505 วรรคแรก
ถ้าศาลมิได้สั่งให้เพิกถอนการสมรสที่เป็นโมฆียะ เพราะเหตุที่คู่สมรสยังอ่อนอายุนี้ จนชายหญิงมีอายุครบ 17 ปีบริบูรณ์หรือหญิงมีครรภ์ก่อนอายุครบกำหนด 17 ปีบริบูรณ์กฎหมายให้ถือว่าการสมรสสมบูรณ์มาตั้งแต่เวลาสมรส ไม่อาจมีใครมาร้องขอให้ศาลเพิกถอนได้
2. การสมรสโดยสำคัญผิดตัว
การสำคัญผิดตัวคู่สมรสได้แก่การเข้าใจผิดในตัวบุคคล อันเป็นผลให้มิได้ทำการสมรสกับบุคคลตามที่ตนประสงค์โดยเป็นกรณีที่มีการเปลี่ยนตัวบุคคลอีกคนหนึ่ง หรือปลอมตัวมาแทนบุคคลอีกคนหนึ่ง
แต่ถ้าการเป็นการสำคัญผิดในฐานะของบุคคลแล้ว เหตุที่ความสำคัญผิดในฐานะของบุคคลนี้ไม่ทำให้การสมรสเสื่อมเสียไป เช่น ชายสำคัญผิดคิดว่าเป็นลูกสาวเจ้าของบ้าน จึงสู่ขอหญิงและทำการสมรสด้วยแต่ความจริงเป็นหญิงคนใช้อยู่บ้าน อย่างนี้ไม่ใช่สำคัญผิดตัว แต่เป็นการสำคัญผิดในฐานะของหญิง การสมรสจึงไม่เป็นโมฆียะ นอกจากนี้การสำคัญผิดในคุณสมบัติหรือชื่อของบุคคลก็ไม่ทำให้การสมรสเป็นโมฆียะ เช่น ชายเคยพบหญิงชื่อนางสาวแดงที่ต่างประเทศมา 10 ปีที่แล้ว ต่อมาพบชื่อนางสาวแดงเหมือนกันโดยสำคัญผิดคิดว่าเป็นหญิงสาวที่เคยพบที่ต่างประเทศจนในที่สุดชายได้จดทะเบียนสมรสกับนางสาวแดง แต่ความจริงแล้วนางสาวแดงคนนี้ไม่เคยไปต่างประเทศเลย เช่นนี้การสมรสดังกล่าวสมบูรณ์ไม่เป็นโมฆียะ
การสมรสที่เป็นโมฆียะเพราะได้กระทำไปโดยคู่สมรสฝ่ายหนึ่งสำคัญผิดตัวคู่สมรสนั้น เฉพาะแต่คู่สมรสที่สำคัญผิดตัวเท่านั้นที่มีสิทธิ์ขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนการสมรสได้ แต่ต้องฟ้องคดีเสียภายในกำหนด 90 วันนับแต่วันสมรสเพราะหลังจากกำหนด 90 วันไปแล้ว สิทธิที่ขอให้เพิกถอนการสมรสเป็นอันระงับสิ้นไประยะเวลา 90 วัน เริ่มนับตั้งแต่วันทำการสมรสมิใช่เริ่มนับเมื่อทราบการสำคัญผิดตัว
3. การสมรสโดยถูกกลฉ้อฉล
การสมรสที่ได้กระทำโดยถูกกลฉ้อฉลอันถึงขนาด ซึ่งถ้ามิได้มีกลฉ้อฉลนั้นจะไม่ทำการสมรสแล้ว การสมรสนั้นเป็นโมฆียะตามมาตรา 1506 กลฉ้อฉลชนิดนี้ คือการลงให้เขาแสดงเจตนาสมรส เช่น ชายหลอกลวงหญิงว่าเป็นนายแพทย์ แต่ความจริงเป็นแค่บุรุษพยาบาล เช่นนี้ การสมรสเป็นโมฆียะ แต่ว่าการหลอกลวงเช่นนั้นจะต้องถึงขนาดว่าถ้าไม่มีกลฉ้อฉล เช่นนั้นจะไม่มีการสมรสเช่น ชายต้องการทายาทไว้สืบสกุลหญิงรู้ตัวว่าเป็นหมันแต่มาหลอก ว่าสามารถให้กำเนิดบุตรได้ใช้หลงเชื่อสินสมรสด้วยการสมรสนั้นเป็นโมฆียะ
การทำกลฉ้อฉลให้มีการสมรสนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นการหลอกให้คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งทำการสมรสกับตน แต่นิ่งเฉยไม่ไขข้อความจริง ไม่ถือว่าเป็นการทำกลฉ้อฉล เว้นแต่จะเป็นพฤติการณ์นิ่ง ที่ตนมีหน้าที่บอกความจริงหรือเป็นการนิ่งประกอบกับพฤติการณ์อาจแสดงออก ซึ่งทำให้อีกฝ่ายหนึ่งส่งสำคัญผิดก็ถือว่าเป็นการกระทำโดยกลฉ้อฉลได้ กลฉ้อฉลอันถึงขนาดต้องพิจารณาจากมาตรฐานความรู้สึกของวิญญูชนที่จะไม่ทำการสมรสหากมิได้มีการหลอกลวงเช่นว่านั้น มิใช่พิจารณาจากมาตรฐานความรู้สึกของคู่สมรสที่หลอกลวงด้วยแต่อย่างไรก็ดีการให้กำเนิดบุตรไปสืบตระกูลเป็นเป้าหมายสำคัญการสมรสการหลอกลวง
4. การสมรสโดยถูกข่มขู่
การข่มขู่ที่จะทำให้การสมรสเป็นโมฆียะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1507 จะต้องถึงขนาด ซึ่งถ้ามิได้มีการข่มขู่นั้นจะไม่ทำการสมรสโดยความเกรงกลัวจากการข่มขู่นี้ จะต้องถึงขนาดที่วิญญูชนมีมูลที่จะต้องเกรงกลัวว่าจะเกิดอันตรายหรือความเสียหาย จึงจำเป็นต้องทำการสมรสไป แต่อย่างไรก็ดี ความกลัวเพราะนับถือยำเกรงไม่นับว่าเป็นการข่มขู่ เพราะฉะนั้นหากมีกรณีหญิงสมรสโดยถูกบิดามารดาของตนบังคับจะนับว่าเป็นการข่มขู่ที่ทำให้การสมรสเป็นโมฆียะไม่ได้ นอกจากนี้การขู่ว่าจะใช้สิทธิอันใดอันหนึ่งตามปกตินิยม ก็ไม่ถือว่าเป็นการข่มขู่ หรือการขู่ว่าจะร้องเรียนผู้บังคับบัญชาเหล่านี้เป็นการขู่ว่าจะใช้สิทธิตามปกตินิยม ไม่ถือว่าเป็นการข่มขู่การสมรสจึงไม่เป็นโมฆียะ
5. การสมรสของผู้เยาว์ที่ไม่ได้รับความยินยอมของบิดา มารดา ผู้รับบุตรบุญธรรมหรือ ผู้ปกครอง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1510 กำหนดให้เฉพาะบุคคลที่อาจให้ความยินยอมในการที่ผู้เยาว์จะทำการสมรสได้ ซึ่งก็คือบิดามารดาผู้รับบุตรบุญธรรมหรือผู้ปกครองเท่านั้นที่มีสิทธิขอให้ศาลเพิกถอนการสมรสที่เป็นโมฆียะนี้ ตัวชายหรือหญิงผู้เยาว์ผู้ทำการสมรสเอง ไม่มีสิทธิร้องขอให้เพิกถอนสิทธิขอเพิกถอนการสมรสของบิดา มารดา ผู้รับบุตรบุญธรรม หรือผู้ปกครองดังกล่าว เป็นอันระงับสิ้นไปเมื่อชายหญิงคู่สมรสนั้นมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์หรือเมื่อหญิงมีครรภ์แล้วการร้องขอเพิกถอนการสมรสในกรณีที่ผู้เยาทำการสมรสโดยไม่ได้รับความยินยอมนี้ มีอายุความหนึ่งปีนับแต่วันทราบการสมรส
หากท่านไม่ได้รับความเป็นธรรมทางกฎหมาย ติดต่อ สำนักงานกฎหมาย อุดมคดี ที่
เบอร์ 082-583-8658
Line : @Udomkadee
Fanpage : https://www.facebook.com/UDOMKADEE