การแจ้งความร้องทุกข์
วันนี้มีผู้เสียหายมาปรึกษาคดีอาญา เรื่องถูกหลอกขายกระเป๋าแบรนด์เนมปลอม ซึ่งจากการสอบถามข้อเท็จจริงแล้วมีความเห็นเบื้องต้น ผู้ต้องหาเอากระเป๋าปลอมมาหลอกขายว่าเป็นของแท้มือสอง ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้รับซื้อไว้เพื่อนำไปขายเก็งกำไรต่อ ความผิดในลักษณะนี้ เป็นการหลอกลวงผู้อื่นดวยข้อความอันเป็นเท็จ และได้ไปซึ่งทรัพย์สินของผู้เสียหาย จึงเป็นลักษณะของความผิดฐานฉ้อโกง อุดมคดีจึงวางวิธีการและรูปคดี โดยไปแจ้งความให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีการก่อนในเบื้องต้น หากผู้ต้องหาปฏิเสธก็คงต้องดำเนินการฟ้องร้องตามขั้นตอนต่อไป
สำนักงานกฎหมาย อุดมคดี จะมาให้ความรู้เกี่ยวกับ ขั้นตอน การแจ้งความร้องทุกข์ ในฐานะผู้เสียหายนะครับ ว่ามีขั้นตอนและต้องทำอย่างไรบ้าง
มีกฎหมายให้คำนิยามเกี่ยวกับการร้องทุกข์ไว้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 2(7) คำร้องทุกข์ หมายความถึง “ การที่ผู้เสียหายได้กล่าวหาต่อเจ้าหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ ว่ามีผู้กระทำความผิดขึ้น จะรู้ตัวผู้กระทำความผิดหรือไม่ก็ตาม ซึ่งกระทำให้เกิดความเสียหายและการกล่าวหาเช่นนั้น ได้กล่าวโดยเจตนาให้ผู้กระทำความผิดนั้นได้รับโทษ
เมื่อพิจารณาตามมาตรา 2(7) นี้ ทำให้เราเข้าใจได้ว่า การแจ้งความร้องทุกข์ จะต้องมีองค์ประกอบดังนี้
1. ผู้ร้องทุกข์เป็นผู้เสียหาย หรือหากมีการมอบอำนาจ ผู้มอบอำนาจต้องเป็นผู้เสียหายโดยนิตินัย
2. ผู้เสียหายได้กล่าวข้อความว่ามีคว่ามผิดอาญาต่อพนักงานสอบสวน
3. กล่าวว่าได้มีการกระทำผิดอาญาเกิดขึ้นซึ่งในขณะแจ้งความร้องทุกข์ อาจจะรู้ตัวผู้กระทำความผิดหรือไม่ก็ได้
4. ผู้แจ้งความมีเจตนาที่จะให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษทางอาญา
ซึ่งการแจ้งความร้องทุกข์ จะต้องครบองค์ประกอบทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมาเสมอ หากขาดข้อหนึ่งข้อใด อาจถือได้ว่าไม่ใช่การร้องทุกข์ จะทำให้ส่งผลต่ออำนาจในการสอบสวนและส่งผลถึงอำนาจฟ้องของพนักงานอัยการอีกด้วย
การกล่าวหาว่ามีการกระทำความผิด ความผิดทางอาญา มีได้ 2 ประเภท คือ
1. ความผิดส่วนตัว
2. ความผิดต่อแผ่นดิน
ข้อสังเกตคือ
การแจ้งความร้องทุกข์ สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปร้องทุกข์แทนกันได้ แต่หลังจากที่มีการแจ้งความร้องทุกข์แล้ว พนักงานสอบสวนก็จะนัดให้ผู้เสียหายที่แท้จริงมาให้ปากคำปากคำในข้อเท็จจริงเพื่อสอบสวนเนื้อหาของคดีในครั้งถัดไป
ข้อควรระวัง แม้ตามหลักของคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5059/2537 จะวางหลักไว้ว่า การมอบอำนาจให้ร้องทุกข์ไม่ต้องทำเป็นหนังสือก็ได้ แต่ในทางปฏิบัตินั้น ต้องมีการทำหนังสือมอบอำนาจที่เป็นลายลักษณ์อักษรไปด้วย เนื่องจากเพื่อเป็นหลักฐานให้พนักงานสอบสวนในการแสดงว่า ผู้รับมอบอำนาจมีอำนาจในการแจ้งข้อกล่าวหาเพียงใด ไม่ได้เป็นการแจ้งความเท็จ ซึ่งถือเป็นการรับผิดชอบคำพูดของผู้แจ้งอีกด้วย ซึ่งหากพิสูจน์ได้ว่าผู้รับมอบอำนาจที่ไม่มีหนังสือมอบอำนาจมาแจ้งความโดยไม่มีมูลเหตุของความผิดแล้ว ผู้แจ้งอาจจะมีความผิดฐานแจ้งความเท็จได้
แต่ทั้งนี้ หากเป็นกรณีเร่งด่วน ผู้รับมอบอำนาจอาจจะแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนไว้ก่อนได้ และขอกำหนดวันส่งเอกสารเกี่ยวกับหนังสือมอบอำนาจในภายหลังก็ได้
เอกสารที่ใช้มอบอำนาจให้แจ้งความร้องทุกข์ มีดังนี้
1. หนังสือมอบอำนาจ พร้อมอากรแสตมป์ 30 บาท
2. สำเนาบัตรประชาชนผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ
3. เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการกระทำมผิดของผู้ต้องหา รูปถ่าย หรือหลักฐานอื่นๆในเบื้องต้น (ถ้ามี)
4. ไปสถานีตำรวจท้องที่ที่มีการกระทำความผิด หรือท้องที่ที่มีความผิดสำเร็จเกิดขึ้น
ต่อไปเมื่อเรามาถึงสถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือ
บุคคลผู้รับแจ้งความ จะต้องเป็นบุคคลตามประมวลกฎหมายอาญา และ มาตรา 124 วรรค 1 คือ
1. พนักงานสอบสวน
2. พนักงานฝ่ายปกครอง
3. ตำรวจที่มีตำแหน่งหน้าที่รองหรือเหนือพนักงานสอบสวน ปอ. มาตรา 124 วรรคหนึ่ง
หากร้องทุกข์ไม่ถูกต้อง สามารถแก้ไขได้หรือไม่
ร้องทุกข์ตาม ปอ. มาตรา 2(7) นั้น หากผู้ร้องทุกข์เห็นว่าคำร้องทุกข์มีเนื้อหาผิดพลาด หรือไม่ถูกต้อง ผู้ร้องทุกข์ ย่อมแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำร้องทุกข์ดังกล่าวได้ตาม ปอ. มาตรา 126 วรรค 1
การถอนคำร้องทุกข์
คำร้องทุกข์ ตาม ปอ. มาตรา 2(7) ผู้เสียหาย หรือผู้ร้องทุกข์ จะถอนคำร้องทุกข์เสียเมื่อไรก็ได้ ตามหลัก ปอ. มาตรา 126 วรรค 1 ผลของการถอนคำร้องทุกข์ หากเป็นคดีความผิดต่อส่วนตัว จะทำให้สิทธิในการนำคดีอาญามาฟ้องระงับสิ้นไป ตาม ปอ. มาตรา 39 (2) โดยการถอนนั้น สามารถถอนได้ 3 ชั้นคือ ถอนคำร้องทุกข์ในชั้นพนักงานสอย , ในชั้น อัยการและในชั้นศาล
หากเราไม่ใช่ผู้เสียหาย แต่เห็นเหตุการณ์ว่ามีผู้กระทำความผิด จะสามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้หรือไม่
กรณีนี้ จะเป็นลักษณะที่เกี่ยวข้องตาม ปอ. มาตรา 2(8) นั่นคือ “คำกล่าวโทษ” คือการที่บุคคลนั้น ไม่ใช่ผู้เสียหาย แต่ได้ไปกล่าวกับพนักงานสอบสวนว่า ได้มีการกระทำความผิดอาญาเกิดขึ้น ซึ่งอาจจะยังรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวคนร้ายก็ได้ ซึ่งใช้หลักการเดียวกันกับการร้องทุกข์ตามที่เคยกล่าวมาแล้วได้เลย
สรุป การแจ้งความร้องทุกข์ ผู้เสียหายจะต้องถูกกระทำโดยผิดกฎหมายตามที่ประมวลกฎหมายอาญาบัญญัติไว้ว่าเป็นความผิด หรือกฎหมายอื่นที่มีลักษณะเป็นความผิดเชิงลงโทษทางอาญา ผู้เสียหายสามารถแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจในท้องที่ที่เกิดเหตุ และพนักงานสอบสวนจะนัดเพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริงในคดีต่อไปครับ
หากไม่ได้รับความเป็นธรรมทางกฎหมาย ติดต่อ สำนักงานกฎหมาย อุดมคดี ที่
เบอร์ 082-583-8658
Line:@Udomkadee
Fanpage:www.facebook.com/UDOMKADEE