ตบทรัพย์ คืออะไร

ตบทรัพย์ คืออะไร

การตบทรัพย์ เป็นความผิดทางอาญาชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากการที่ผู้กระทำผิดใช้อำนาจหรือข่มขู่บังคับให้ผู้อื่นมอบทรัพย์สินให้ โดยไม่สมัครใจ ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิในทรัพย์สินของผู้อื่นอย่างร้ายแรง

การตบทรัพย์แตกต่างจากการลักทรัพย์อย่างไร?

หลายคนอาจสับสนระหว่างการตบทรัพย์กับการลักทรัพย์ แต่ทั้งสองมีความแตกต่างกันดังนี้

  • การลักทรัพย์: เป็นการลักเอาทรัพย์สินของผู้อื่นไปโดยที่เจ้าของไม่รู้เห็น หรือไม่ได้ให้ความยินยอม
  • การตบทรัพย์: เป็นการบังคับขู่เข็ญให้เจ้าของทรัพย์สินยอมมอบทรัพย์สินมาให้

ลักษณะของการตบทรัพย์

การตบทรัพย์มีหลายลักษณะ เช่น การข่มขู่ผู้เสียหายว่าจะแพร่ข่าวหรือเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับ ซึ่งอาจจะกระทบกับชื่อเสียงหรือส่งผลร้ายแรงต่อการดำเนินชีวิต การตบทรัพย์สามารถเกิดขึ้นในหลากหลายสถานการณ์ เช่น เรื่องส่วนตัวในชีวิตประจำวัน ธุรกิจ หรือแม้กระทั่งในสังคมออนไลน์ ในปัจจุบันที่การใช้โซเชียลมีเดียมีความแพร่หลาย การข่มขู่หรือเรียกร้องเงินทองในช่องทางออนไลน์ก็เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เช่น การนำภาพลับหรือข้อมูลที่เป็นความลับของผู้อื่นมาใช้ในการเรียกค่าไถ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในลักษณะของการตบทรัพย์ที่มีการกระทำผ่านสื่อออนไลน์

รูปแบบของการตบทรัพย์

การตบทรัพย์มีหลายรูปแบบ เช่น

  • การขู่เข็ญ: ผู้กระทำผิดอาจขู่ทำร้ายร่างกาย ขู่ฆ่า หรือขู่ทำลายทรัพย์สินของผู้เสียหาย หรือของบุคคลที่ผู้เสียหายรัก เพื่อให้ยอมมอบทรัพย์สิน
  • การบังคับ: ผู้กระทำผิดอาจใช้กำลังบังคับให้ผู้เสียหายยอมมอบทรัพย์สิน
  • การหลอกลวง: ผู้กระทำผิดอาจหลอกลวงผู้เสียหายให้หลงเชื่อในเรื่องต่างๆ เพื่อให้ยอมมอบทรัพย์สิน

ทำไมจึงมีการตบทรัพย์คนเดือดร้อน?

  • โอกาส: ผู้กระทำผิดมองเห็นว่าผู้ที่กำลังเดือดร้อนนั้นอ่อนแอและง่ายต่อการควบคุม จึงเข้ามาตีสนิทเพื่อหลอกลวง หรือขู่เข็ญให้ยอมทำตาม
  • ผลประโยชน์: ผู้กระทำผิดต้องการได้มาซึ่งทรัพย์สินโดยง่าย และมักจะเลือกเหยื่อที่คิดว่าจะได้ผลประโยชน์สูงสุด
  • ขาดจิตสำนึก: ผู้กระทำผิดขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้เสียหาย

ตัวอย่างการตบทรัพย์

  • ขู่ทำร้ายลูกหลานเพื่อให้ผู้ปกครองยอมมอบเงิน
  • ขู่เปิดเผยความลับส่วนตัวของผู้อื่นเพื่อให้ยอมจ่ายเงินปิดปาก
  • บังคับให้พนักงานบริษัทจ่ายเงินให้เพื่อแลกกับการไม่ถูกไล่ออก

ผลของการกระทำความผิดฐานตบทรัพย์

ผู้ที่กระทำความผิดฐานตบทรัพย์ จะต้องรับโทษตามกฎหมาย อาจถูกปรับ จำคุก หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยโทษที่ได้รับจะขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของการกระทำ การตบทรัพย์ ส่งผลกระทบในหลายด้าน ทั้งต่อตัวผู้ที่ถูกกระทำ ครอบครัว รวมถึงสังคมโดยรวม ผู้เสียหายอาจได้รับผลกระทบทางจิตใจ เสียเงินทอง หรือเสียโอกาสทางสังคม นอกจากนี้ การตบทรัพย์ยังส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของสังคม เมื่อการฉ้อฉลกลายเป็นเรื่องที่มีให้เห็นบ่อยครั้ง

กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการตบทรัพย์

ในประเทศไทย การตบทรัพย์ถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย มีบทลงโทษที่ชัดเจน โดยอาจอยู่ในหมวดหมู่ของความผิดฐานฉ้อโกง ข่มขู่ หรือรีดเอาทรัพย์ ซึ่งโทษอาจแตกต่างกันไปตามลักษณะและวิธีการที่ใช้ในการกระทำความผิด ทั้งนี้เพื่อป้องปรามและปกป้องสิทธิของประชาชน กฎหมายจึงได้กำหนดบทลงโทษเพื่อเป็นการควบคุมการกระทำดังกล่าวให้ลดน้อยลง

กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการตบทรัพย์: ป้องกันตนเองและเข้าใจสิทธิ

การตบทรัพย์เป็นอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้เสียหายเป็นอย่างมาก กฎหมายไทยมีบทบัญญัติเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายและลงโทษผู้กระทำความผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประมวลกฎหมายอาญา

กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการตบทรัพย์

  • มาตรา 338 ประมวลกฎหมายอาญา: ความผิดฐานรีดเอาทรัพย์ ซึ่งเป็นการขู่เข็ญว่าจะเปิดเผยความลับเพื่อให้ผู้อื่นยอมมอบทรัพย์สิน
  • มาตรา 339 ประมวลกฎหมายอาญา: ความผิดฐานชิงทรัพย์ ซึ่งเป็นการใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อชิงทรัพย์
  • มาตรา 340 ประมวลกฎหมายอาญา: ความผิดฐานปล้นทรัพย์ ซึ่งเป็นการชิงทรัพย์โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สามคนขึ้นไป

หมายเหตุ: การตบทรัพย์อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตราอื่นๆ ได้อีกด้วย ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์ของการกระทำ เช่น การฉ้อโกง การข่มขืนใจ เป็นต้น

องค์ประกอบความผิดฐานรีดเอาทรัพย์

  • การขู่เข็ญ: ผู้กระทำผิดต้องขู่เข็ญว่าจะเปิดเผยความลับซึ่งการเปิดเผยนั้นจะทำให้ผู้ถูกขู่เข็ญหรือบุคคลที่สามเสียหาย
  • ความลับ: ความลับที่ถูกขู่เข็ญต้องเป็นความลับที่เกี่ยวข้องกับตัวผู้ถูกขู่เข็ญหรือบุคคลใกล้ชิด
  • การยอมให้: ผู้ถูกขู่เข็ญต้องยอมให้หรือยอมจะให้ทรัพย์สินแก่ผู้กระทำผิดเพราะกลัวการถูกเปิดเผยความลับ

วิธีป้องกันและจัดการกับการตบทรัพย์

  1. ไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวกับผู้อื่นโดยไม่จำเป็น เพื่อป้องกันการถูกนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ไม่สุจริต
  2. ติดต่อเจ้าหน้าที่เมื่อพบว่ามีการข่มขู่ อย่าจัดการด้วยตัวเองโดยการยอมจ่ายเงิน เพราะจะเป็นการส่งเสริมการกระทำผิดซ้ำๆ
  3. แจ้งความเป็นหลักฐาน เมื่อเกิดเหตุการณ์การข่มขู่หรือการตบทรัพย์ ควรแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตรวจสอบ

บทสรุป ตบทรัพย์ คืออะไร

การตบทรัพย์ เป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรงและส่งผลกระทบต่อผู้เสียหายทั้งทางร่างกายและจิตใจ กฎหมายไทยมีบทบัญญัติเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายและลงโทษผู้กระทำความผิด หากคุณหรือคนรู้จักถูกตบทรัพย์ ควรรีบแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

หากท่านไม่ได้รับความเป็นธรรมทางกฎหมาย ติดต่อ สำนักงานกฎหมาย อุดมคดี ที่
เบอร์ 082-583-8658
Line:@Udomkadee
Fanpage: https://www.facebook.com/UDOMKADEE