ทรัพย์สินทางปัญญา หมายถึง ผลงานอันเกิดจากการประดิษฐ์คิดค้น หรือสร้างสรรค์ของมนุษย์ ซึ่งเน้นที่ผลผลิตของสติปัญญา และความชำนาญโดยไม่จำกัดชนิดของการส้รางสรรค์ หรือวิธีในการแสดงออกทรัพย์สินทางปัญญา อาจแสดงออกในรูปของสิ่งที่จับต้องได้ เช่น สินค้าต่างๆ หรือในรูปของสิ่งที่จับต้องไม่ได้ เช่น บริการแนวคิดในการดำเนินธุรกิจ กรรมวิธีการผลิตทางอุตสาหกรรม เป็นต้น
ประเภทของทรัพย์สินทางปัญญา
ทรัพย์สินทางปัญญาแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. ลิขสิทธิ์
2. ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม
1. ลิขสิทธิ์ เป็นผลงานที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ การใช้สติปัญญาความรู้ความสามารถ และความวิริยอุตสาหะ ในการสร้างสรรค์งานให้เกิดขึ้นซึ่งถือเป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ
ประเภทงานสร้างสรรค์ที่มีลิขสิทธิ์ คือ วรรณกรรม นาฎกรรม ศิลปกรรม ดนตรีกรรม ภาพยนต์สิ่งบันทึกเสียง งานแพร่เสียง แพร่ภาพ หรืองานอื่นใดในแผนวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือ แผนกศิลปะ ไม่ว่างานดังกล่าว จะแสดงออกโดยวิธีหรือ รูปแบบอย่างใด
นอกจากนี้ กฎหมายลิขสิทธิยังให้ความคุ้มครองถึงสิทธิของนักแสดงด้วย
การคุ้มครองลิขสิทธิ์ไม่ครอบคลุมถึงความคิด ขั้นตอน กรรมวิธี ระบบวิธีใช้หรือวิธีทำงาน แนวความคิด หลักการการค้นพบ หรือทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์
2. ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม เป็นความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ที่เกี่ยวกับสินค้าอุตสาหกรรมความคิดสร้างสรรค์นี้ จะเป็นความคิดในการประดิษฐ์คิดค้นการออกแบบผลิตภัณฑ์ทางอุตสาหกรรม ซึ่งอาจจะเป็นกระบวนการ หรือเทคนิคในการผลิตที่ได้ ปรับปรุง หรือคิดค้นขึ้นใหม่ หรือที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่เป็นองค์ประกอบ และรูปร่างสวยงามของตัวผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังรวมถึงเครื่องหมายการค้าและยี่ห้อ แหล่งกำเนิดสินค้า
ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม แบ่งเป็นเครื่องหมายการค้า สิทธิบัตร สิ่งบ่งชี้ ทางภูมิศาสตร์ แบบผังภูมิของวงจรรวมความลับทางการค้า
2.1 เครื่องหมายการค้า
เครื่องหมายการค้า คือ เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ หรือตราที่ใช้กับสินค้าหรือบริการ ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ
1. เครื่องหมายการค้า (Trademark)
2. เครื่องหมายบริการ (Service Mark)
3. เครื่องหมายรับรอง (Certification Mark)
4. เครื่องหมายร่วม (Collective Mark)
“เครื่องหมาย” อาจเป็นภาพถ่าย ภาพวาด ภาพประดิษฐ์ ตรา ชื่อ คำ ข้อความ ตัวหนังสือ ตัวเลข ลายมือชื่อ กลุ่มของสีรูปร่างหรือรูปทรง ของวัตถุ หรือส่งเหล่านี้ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกัน
เครื่องหมายที่สามารถจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าได้ จะต้องมีลักษณะบ่งเฉพาะ เป็นเครื่องหมายที่ไม่มีลักษระต้องห้ามตามกฎหมายและไม่เหมือน หรือคล้ายกับเครื่องหมาย การค้าที่บุคคลอื่นได้จดทะเบียนไว้แล้ว
2.2 สิทธิบัตร
สิทธิบัตร เป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่เกิดจากผลงานสร้างสรรค์จากการประดิษฐ์คิดค้น หรือออกแบบขึ้นแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
1. สิทธิบัตรการประดิษฐ์ ที่จะต้องเป็นการประดิษฐ์ขึ้นใหม่ มีขั้นการประดิษฐ์ที่สูงขึ้น และสามารถประยุกต์ใช้ในทางอุตสาหกรรมได้
2. สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่จะต้องออกแบบขึ้นใหม่ และสามารถประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมรวมทั้งหัตถกรรมได้
การประดิษฐ์หมายถึง การคิดค้นที่เกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์หรือสินค้า เช่น โครงสร้าง กลไก องค์ประกอบ ส่วนผสมหรือวิธีการหรือกรรมวิธี เช่ยวิธีการในการผลิตภัณฑ์ หรือสินค้าการรักษษสินค้าให้คงสภาพ และการปรับปรุงคุณภาพสินค้าให้ดีขึ้น
การออกแบบผลิตภัณฑ์ หมายถึง การออกแบบรูปร่าง รูปทรง ลวดลาย หรือสี ของผลิตภัณฑ์หรือสินค้า
2.3 อนุสิทธิบัตร
อนุสิทธิบัตร เป็นทรัพย์สิทนทางปัญญาที่เกิดจากผลงานสร้างสรรค์ จากการประดิษฐ์คิดค้นที่ไม่มีความซับซ้อน อาจคิดขึ้น โดยง่ายแต่ต้องเป็นการประดิษฐ์ขึ้นใหม่ และสามารถประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมได้
ผู้ยื่นขอจดทะเบียนสามารถที่จะเลือกว่าจะยื่นคำขอความคุ้มครองสิทธิบัตร หรืออนุสิทธิบัตรอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่จะขอความคุ้มครองทั้งสองอย่างพร้อมกันไม่ได้
2.4 สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์
สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ คือ ชื่อสัญลักษณ์หรือสิ่งอื่นใดที่ใช้เรียก หรือใช้แทนแหล่งภูมิศาสตร์และสามารถบ่งบอกคุณภาพ ชื่อเสียง หรือคุณลักษณะ เฉพาะแหล่งภูมิศาสตร์ หรือชื่อแหล่งภูมิศาสตร์ ที่ใช้ประกอบสินค้า เพื่อแสดงให้ผู้ซื้อ หรือผู้บริโภคได้ทราบถึงลักษณะของสินค้าที่มาจากแหล่งนั้น มีคุณภาพ ชื่อเสียง หรือคุณลักษณะพิเศษ
สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ที่ขอความคุ้มครองได้ประกอบด้วย
1. เป็นชื่อ สัญลักษณ์หรือสิ่งอื่นใดที่ใช้เรียกหรือให้แทนแหล่งภูมิศาสตร์ และสามารถบ่งบอกว่าสินค้าที่เกิดจากแหล่งภูมิศาสตร์นั้น เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ชื่อเสียง หรือคุณลักษณะเฉพาะ
2. สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์นั้น ต้องมีความเชื่อมโยง กับแหล่งภูมิศาสตร์
3. ไม่เป็นชื่อสามัญที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นชื่อที่ใช้เรียกขานสินค้าชนิดหนึ่งชนิดใด
4. ไม่เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศิลธรรมอันดีของประชาชน หรือนโยบายแห่งรัฐ
2.5 แบบผังภูมิของวงจรรวม
วงจรรวม หรือไมโครชิพ เป็นอุปกรณ์ทางอิเล็คทรอนิกส์ที่มีวงจรขนาดเล็กอยู่ภายใน ซึ่งทำขึ้นบนวัตถุกึ่งตัวนำ ปัจจุบันวงจรไฟฟ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้าเกือบทุกชนิด จะมีวงจรรวมประกอบด้วย วงจรรวมนี้ช่วยทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้ามีขนาดเล็กลง และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แบบผังภูมิวงจรรวม คือ แบบแผนผัง หรือภาพที่ทำขึ้นเพื่อแสดงถึงการจัดวางชิ้นส่วนทางไฟฟ้า ทางเดิน ไฟฟ้า เพื่อใช้ในการผลิตวงจรรวมไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด เข่น แผนผัง ที่เป็นภาพวาดของการจัดวางวงจรไฟฟ้าแบบที่เป็นงานเสมือนจริง , หน้ากากที่ใช้ในการผลิตวงจรรวมภาพถ่ายลายเส้นของวงจรรวมเป็นต้น
แบบผังภูมิของวงจรรวมที่สามารถขอรับความคุ้มครองได้ จะต้องเป็นแผนภูมิที่ไม่มีปรากฎโดยทั่วไปในอุตสาหกรรม วงจรรวม(ออกแบบขึ้นใหม่) และเป็นแบบผังภูมิที่มีการนำ เอาแบบผังภูมิที่มีอยู่แล้วแต่ไม่เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปในอุตสาหกรรมวงจรรวมมาออกแบบใหม่
2.6 ความลับทางการค้า
ความลับทางการค้า คือ ข้อมูลการค้าซึ่งยังไม่รู้จักกันโดยทั่วไป และมีประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ผู้ควบคุมความลับทางกาค้าจะต้องมีมาตรการที่เหมาะสมในการเก็บความลับทางการค้า ตัวอย่างความลับทางการค้า เช่น สูตรยา สูตรอาหาร สูตรเครื่องดื่ม สูตรเครื่องสำอาง กรรมวิธีการผลิต ข้อมูลบริหารธุรกิจ รายละเอียดเกี่ยวกับ ราคาสินค้า บัญชีรายชื่อลูกค้า เป็นต้น
โดยปกติความลับทางการค้าจะได้รับความคุ้มครองตราบเท่าที่ยังเป็นความลับอยู่ เพราะฉะนั้นสิทธิความเป็นเจ้าของความลับทางการค้ายังมีอยู่ตลอดไป หากความลับทางการค้านั้น ยังไม่เปิดเผย และความลับทางการค้าจะได้รับความคุ้มครอง โดยไม่ต้องมีการจดทะเบียน
สรุป ทรัพย์สินทางปัญญา เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นสิทธิที่ออกมาเพื่อคุ้มครองผู้ออกแบบ และสามารถนำสิทธิการออกแบบไปใช้ในทางธุรกิจ การค้า เพื่อมิให้ใครเข้ามาละเมิดลิขสิทธิได้ครับ
หากท่านไม่ได้รับความเป็นธรรมทางกฎหมาย ติดต่อ สำนักงานกฎหมาย อุดมคดี ที่
เบอร์ 082-583-8658
Line:@Udomkadee
Fanpage: https://www.facebook.com/UDOMKADEE