สัญญาประกันชีวิต

https://pantip.com/topic/41216243

สัญญาประกันชีวิต

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 889 ในสัญญาประกันชีวิตนั้น การใช้จำนวนเงิน ย่อมอาศัยความทรงชีพ หรือมรณะของบุคคลคนหนึ่ง

  • สัญญาประกันชีวิต การใช้จำนวนเงินย่อมอาศัยความทรงชีพ หรือมรณะของบุคคลคนหนึ่ง

1. สัญญาประกันชีวิต ไม่ใช่สัญญาที่มีวัตถุประสงค์เพื่อชดใช้ค่าสินใหม่ทดแทนอย่างสัญญาประกันวินาศภัย

          คำพิพากษาฎีกาที่ 64 / 2516 (ประชุมใหญ่) สัญญาประกันอุบัติเหตุของบุคคลใด ในส่วนที่เกี่ยวกับการเสี่ยงภัยถึงชีวิต ถือว่าเป็นสัญญาประกันชีวิต เพราะอาศัยความมรณะเป็นเงื่อนไขในการใช้เงินตามความหมายในมาตรา 889

          สัญญาประกันชีวิต มิใช่สัญญาชดใช้ค่าสินไหมทดแทนดังเช่นสัญญาประกันวินาศภัย แต่เป็นสัญญาที่ผู้รับประกันภัยตกลงจะใช้เงินจำนวนหนึ่งให้ โดยอาศัยความทรงชีพหรือมรณะของบุคคลคนหนึ่ง ฉะนั้นเมื่อโจทก์นายจ้างเอาประกันชีวิตของลูกจ้างในกรณีอุบัติเหตุไว้กับจำเลยเป็นจำนวน 100,000 บาท โดยโจทก์เป็นผู้รับประโยชน์ และลูกจ้างที่ระบุในกรมธรรม์ได้ประสบอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิตระหว่างอายุสัญญา จำเลยก็ต้องจ่ายเงินให้โจทก์ตามเงื่อนไขแห่งสัญญา

          คำพิพากษาฎีกาที่ 3489 / 2530 กรมธรรม์ประกันชีวิตและประกันอุบัติเหตุที่ ส. เอาประกันไว้กับจำเลยที่ 1 ระบุไว้ในกรณีที่  ส. ถึงแก่กรรมเนื่องจากอุบัติเหตุ จำเลยที่ 1 จะจ่ายเงินจำนวนประกันรวมจำนวนเงินประกันอุบัติเหตุให้แก่โจทก์ผู้รับประโยชน์ แม้ข้อเท็จจริงจะได้ความว่า  ส. ป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจตีบก็ตาม สาเหตุที่ทำให้ศถึงแก่ความตายอันเนื่องมาจากประสบอุบัติเหตุ ถูกสุกรเข้าชนด้านหลัง ล้มหงายศีรษะฟาดพื้นคอกสุกร กรณีจึงต้องถือว่า ส. ถึงแก่กรรมเนื่องจากประสบอุบัติเหตุ มิใช่เนื่องจากการเจ็บป่วยอันเป็นเหตุยกเว้นความรับผิดตามเงื่อนไขแห่งกรมธรรม์ จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดจ่ายเงินประกันตามสัญญา แม้จำเลยที่ 1 ผู้รับประกันภัยยังไม่ออกหลักฐานการรับชำระเบี้ยประกันให้โจทก์ ก็ต้องถือว่าจำเลยที่ 1 ได้รับเบี้ยประกันโดยผ่านทาง จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นตัวแทนแล้วกรมธรรม์จึงยังไม่สิ้นผลบังคับ

          คำพิพากษาฎีกาที่ 395 / 2532 แม้สัญญาประกันภัยจะไม่คุ้มครองการทำร้ายฆาตกรรมก็ตาม แต่เมื่อข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าคนที่ใช้อาวุธปืนยิงผู้เอาประกันเป็นใครและยังฟังไม่ได้แน่ชัดว่า ผู้เอาประกันถึงแก่ความตายเพราะถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นับว่าการตายของผู้เอาประกันเกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุ ผู้รับประกันภัยคุ้มครองมรณกรรมเนื่องจากอุบัติเหตุจะปฏิเสธความรับผิดหาได้ไม่

          เมื่อผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยได้แจ้งให้ผู้รับประกันภัยทราบถึงอุบัติเหตุ หลังได้ส่งหลักฐานความเสียหายไปให้ผู้รับประกันภัยครบถ้วนแล้ว ผู้รับประกันภัยเป็นฝ่ายผิดสัญญาไม่ยอมจ่ายเงินให้ผู้รับประโยชน์ ผู้รับประโยชน์จึงมีสิทธิเรียกร้องดอกเบี้ยของเงิน ที่ผู้รับประโยชน์มีสิทธิได้รับนับแต่วันผิดนัด

  • หมายเหตุ ตามฎีกานี้ข้อเท็จจริงต่างกับฎีกาที่ 1803 / 2530

          คำพิพากษาฎีกาที่ 1803 /2530 ผู้ตายได้ทำสัญญาประกันคุ้มครองอุบัติเหตุกับจำเลย โดยในสัญญาดังกล่าวมีข้อยกเว้นความรับผิดของผู้รับประกันภัยว่า จะไม่รับผิดชดใช้ค่าทดแทนใด ๆ ถ้าหากผู้เอาประกันเสียชีวิตด้วยการถูกฆาตกรรม เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้ตายถูกคนร้ายฆ่าโดยเจตนา การตายของผู้ตายจึงเกิดจากการฆาตกรรม จำเลยซึ่งเป็นผู้รับประกันจึงไม่ต้องรับผิด

          คำพิพากษาฎีกาที่ 2383 / 2539 โจทก์ได้ทำสัญญาประกันชีวิตและสัญญาพิเศษกับจำเลยระหว่างอายุสัญญา โจทก์ประสบอุบัติเหตุ ประสาทหูทั้งสองข้างไม่ได้ยินเสียงใดๆ เมื่อโจทก์ประกอบอาชีพรับจ้างซ่อมและจำหน่ายอะไหล่รถจักรยานยนต์  โจทก์ย่อมต้องใช้การฟังเสียงเครื่องยนตร์ประกอบด้วยการซ่อม และต้องพูดคุยกับลูกค้าที่มาซื้ออะไหล่ โจทก์จึงหย่อนความสามารถที่จะประกอบการงานตามปกติโดยสิ้นเชิงตลอดไป ถือว่าโจทก์ทุพพลภาพสิ้นเชิงตามสัญญาพิเศษเพิ่มเติมแล้ว

          คำพิพากษาฎีกาที่ 5089 / 2541 สัญญาประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการเสี่ยงภัยถึงชีวิต เป็นสัญญาประกันชีวิตอย่างหนึ่ง เพราะอาศัยความมรณะของบุคคลเป็นเงื่อนไขแห่งการใช้เงินตามความหมายในมาตรา 889 ซึ่งไม่ได้ให้สิทธิผู้รับประกันภัยที่จะเข้ารับช่วงสิทธิแทนกันได้ เหมือนอย่างการประกันวินาศภัยโจทก์ผู้รับประกันภัย จึงไม่มีอำนาจฟ้องไล่เบี้ยเอาค่าเสียหายเกี่ยวกับการตายของผู้เอาประกันภัยที่โจทก์จ่ายไป

          ค่าเสียหายเกี่ยวกับการเสี่ยงภัยกรณีบาดเจ็บและค่ารักษาพยาบาลก่อนตายของผู้เอาประกันภัยที่โจทก์ ผู้รับประกันภัยจ่ายไปเป็นการจ่ายตามกรมธรรม์ประกันภัยที่โจทก์ตกลงคุ้มครองหาใช่เป็นการประกันชีวิตไม่ถือเป็นค่าเสียหายผู้เอาประกันภัยได้รับจากการกระทำโดยประมาทของจำเลยเมื่อโจทก์จ่ายให้แก่ผู้เอาประกันภัยแล้วโจทก์ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิ์ของผู้เอาประกันภัยมาฟ้องเรียกค่าเสียหายดังกล่าวจากจำเลยผู้ทำละเมิดต่อผู้เอาประกันภัย

          คำพิพากษาฎีกาที่ 9318 / 2504 ธุรกรรมของจำเลยในการเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไป ยื่นคำขอเปิดบัญชีเงินฝากประเภทสงเคราะห์ชีวิตและครอบครัว โดยการจ่ายจำนวนเงินสงเคราะห์ย่อมอาศัยความทรงชีพหรือมรณะของผู้ยื่นคำขอ ก็คือการรับประกันชีวิตตามมาตรา 889

          เมื่อ อ. พนักงานของจำเลยได้รับคำขอและเงินฝากงวดแรกจาก ช. แล้ว อ. ต้องส่งเรื่องไปให้ผู้อำนวยการภาคของจำเลยเพื่อพิจารณาว่าจะอนุมัติหรือไม่ภายในหนึ่งเดือน นับแต่จำเลยได้รับเงินฝากงวดแรกของ ช. คือภายในวันที่ 3 พฤศจิกายน ข้อเท็จจริงก็ปรากฏว่า ผู้อำนวยการภาคของจำเลยได้พิจารณาอนุมัติให้ออกกรมธรรม์ให้แก่ ช. ย่อมแสดงชัดว่าจำเลยยอมรับว่า  ช. มีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ที่จำเลยกำหนดไว้ ส่วนข้อกำหนดในคำขอเปิดบัญชีเงินฝากประเภทสงเคราะห์ชีวิตและครอบครัวที่ว่า “ข้าพเจ้ายอมรับว่าธนาคารยังไม่มีข้อผูกพันใดๆ กับข้าพเจ้า จนกว่าธนาคารจะได้ออกกรมธรรม์การฝากเงินให้แล้ว…” นั้น ย่อมมีความหมายมุ่งเฉพาะผู้ยื่นคำขอมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ที่จำเลยกำหนดไว้เท่านั้น

          1.1 สัญญาประกันชีวิตบุคคลอื่น ซึ่งผู้เอาประกันชีวิตมิได้ระบุผู้รับประโยชน์กรณีเช่นนี้ ต้องถือว่าผู้เอาประกันเป็นผู้รับประโยชน์

          คำพิพากษาฎีกาที่ 1822 / 2544 ตามกรมธรรม์ประกันภัย โจทก์ได้เอาประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลต่อการเสียชีวิตของบุคคล ผู้ขับรถยนต์คันที่ประกันภัยไว้กับจำเลย โดยไม่ได้ระบุตัวผู้รับประโยชน์ไว้ แม้จะเป็นการประกันชีวิตแบบหนึ่ง แต่ก็มิใช่กรณีที่ผู้ตายเอาประกันชีวิตของตนเอง จึงแสดงให้เห็นเจตนาของคู่สัญญาว่าประสงค์ที่จะให้ค่าสินไหมทดแทนส่วนนี้ ตกได้แก่ผู้เอาประกันภัยโดยตรง มิใช่เป็นทรัพย์สินส่วนหนึ่งแห่งกองมรดกของผู้ตาย ดังนั้นโจทก์ในฐานะคู่สัญญาย่อมมีสิทธิเรียกร้องค่าสินใหม่ทดแทนต่อการเสียชีวิตของผู้ขับรถยนต์ของโจทก์ในขณะเกิดเหตุจากจำเลยได้

          1.2 เงินอันเป็นใช้เมื่อมรณะของผู้เอาประกันภัย ไม่เป็นมรดกของผู้เอาประกันภัย

          คำพิพากษาฎีกาที่ 4712 / 2542 เงินประกันชีวิตเป็นเรื่องที่เกิดจากสัญญาระหว่างผู้ตายกับบุคคลภายนอก และจำเลยเพื่อให้ใช้เงินแก่ผู้รับประโยชน์ สืบเนื่องจากความมรณะของผู้ตาย อันมีลักษณะเป็นการประกันชีวิตสิทธิตามสัญญาเกิดขึ้นเมื่อ ผู้ประกันชีวิตถึงแก่กรรม จึงมิใช่มรดกของผู้จาย ที่มีอยู่ขณะถึงแกความตายที่โจทก์จะใช้สิทธิแบ่งได้

          สัญญาประกันชีวิตที่ผู้ตายระบุให้จำเลยซึ่งไม่ใช่เป็นคนสำคัญเป็นผู้รับประโยชน์อันเข้ามาครับตามมาตรา 897 วรรค 2 ที่กำหนดไว้เฉพาะการกำหนดเบี้ยประกันภัย ซึ่งผู้เอาประกันภัยได้ส่งไปแล้วนั้น จัดเป็นสินทรัพย์ส่วนหนึ่งแห่งกองมรดกของผู้เอาประกันภัย อันเจ้าหนี้จะเอาใช้หนี้ได้ โจทก์มิได้ฟ้องเรียกเอาเบี้ยประกันโดยกล่าวอ้างมาในคำฟ้องอย่าเรียกเงินประกันชีวิต จึงเป็นข้อที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาโดยชอบในศาลจนต้น ทั้งไม่ใช่ปัญหาความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 วรรคหนึ่งแล้ววรรคสอง

2. สัญญาประกันชีวิต ผู้เอาประกันภัยต้องมีส่วนได้เสียในเหตุที่ประกันภัยตามมาตรา 863 ด้วย กล่าวคือ ผู้เอาประกันภัยจะต้องมีส่วนได้เสียในเหตุที่เอาประกันชีวิตของบุคคลอันการใช้เงินย่อมอาศัยความทรงชีพหรือมรณะนั้น

          คำพิพากษาฎีกาที่ 64 / 2516 (ป) โจทก์เอาประกันชีวิตลูกจ้างซึ่งขับรถบรรทุกน้ำมันของโจทก์นั้น เห็นได้ว่าจะต้องรับผิดต่อการกระทำละเมิดในการที่จ้างของลูกจ้าง และยังต้องรับผิดใช้เงินให้แก่ทายาทผู้ตายอุปการะเขาจ้างด้วย ตามประกาศของกระทรวงมหาดไทยซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจประกาศคณะปฏิวัติท ฉบับที่ 19 ประกอบการขับรถยนต์บรรทุกน้ำมัน ย่อมต้องอาศัยบุคคลที่มีความชำนาญ และไว้วางใจได้แค่นี้ถือว่าโจทก์มีส่วนได้เสียที่จะเอาประกันชีวิตลูกจ้างดังกล่าวนี้ได้

3. สัญญาประกันชีวิต แม้ผู้รับประกันชีวิตได้ใช้เงินจำนวนหนึ่งตามสัญญาประกันชีวิตแล้ว ก็ไม่มีสิทธิเข้ารับช่วงสิทธิที่มีต่อบุคคลภายนอกการใช้ปัญญาประกันวินาศภัย

          คำพิพากษาฎีกาที่ 2572 / 2525 สัญญาประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการเสี่ยงภัยถึงชีวิตเป็นสัญญาประกันชีวิตอย่างหนึ่ง เพราะอาศัยความมรณะของบุคคลเป็นเงื่อนไขแห่งการใช้เงินตามความหมายในมาตรา 889 บทบัญญัติว่าด้วยประกันชีวิตไม่ได้ให้สิทธิผู้รับประกันภัยที่จะเข้ารับช่วงสิทธิแทนกันได้ เหมือนอย่างการประกันวินาศภัย เหตุนี้แม้โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์ไปจ่ายเงินชดเชยการเสียชีวิตของ  อ. ผู้ขับรถดังกล่าว ซึ่งถูกรถคันอื่นชนแก่ครอบครัวตามกรมธรรม์ประกันภัยแล้ว จึงไม่มีอำนาจฟ้องไล่เบี้ยเอาค่าเสียหายส่วนนี้จากจำเลยได้

4. อายุความฟ้องเรียกเงินตามสัญญาประกันชีวิตมีกำหนด 10 ปีนับแต่วันที่อาจบังคับตามสิทธิเรียกร้องได้ตามมาตรา 193 / 30

          คำพิพากษาฎีกาที่ 2306 / 2532 การฟ้องเรียกเงินตามสัญญาประกันชีวิตมิได้มีความหมายกำหนดอายุความไว้เป็นพิเศษจึงต้องใช้อายุความทั่วไปมีกำหนดสิทธิตามมาตรา 193 / 30

หากท่านไม่ได้รับความเป็นธรรมทางกฎหมาย ติดต่อ สำนักงานกฎหมาย อุดมคดี ที่
เบอร์ 082-583-8658
Line : @Udomkadee
Fanpage : https://www.facebook.com/UDOMKADEE