เมาแล้วขับ

เมาแล้วขับ : ความเสี่ยงและบทลงโทษตามกฎหมายไทย

การขับรถในขณะที่มีแอลกอฮอล์ในร่างกายเกินเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงร้ายแรงทั้งต่อตนเองและผู้อื่นบนท้องถนน เมาแล้วขับ เป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุและการสูญเสียชีวิตมากมายในแต่ละปี การตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดจากการเมาแล้วขับจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะนอกจากจะเสี่ยงต่อความปลอดภัยแล้วยังมีบทลงโทษตามกฎหมายที่รุนแรงอีกด้วย

ผลกระทบจากการเมาแล้วขับ

การขับรถภายใต้ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ส่งผลเสียต่อสมรรถภาพการขับขี่ ดังนี้:

  • การตอบสนองช้าลง – เมื่อดื่มแอลกอฮอล์ สมองและระบบประสาทส่วนกลางจะทำงานช้าลง ทำให้การตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ บนถนนลดลง
  • การสูญเสียการทรงตัวและการมองเห็น – แอลกอฮอล์ทำให้ผู้ขับขี่สูญเสียสมดุลการทรงตัวและการมองเห็นที่ชัดเจน ส่งผลต่อการควบคุมรถและความสามารถในการตัดสินใจ
  • การเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ – เมื่อประสิทธิภาพในการขับขี่ลดลง โอกาสในการเกิดอุบัติเหตุจึงสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้ใช้ถนนอื่น ๆ

กฎหมายและบทลงโทษเมาแล้วขับในประเทศไทย

ตามกฎหมายของประเทศไทย ได้กำหนดเกณฑ์ปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายของผู้ขับขี่ที่ไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หากเกินกว่านั้นถือว่าเป็นการเมาแล้วขับ และจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมีบทลงโทษดังนี้:

  1. โทษจำคุกและปรับ – หากพบว่าเมาแล้วขับ ผู้กระทำผิดอาจถูกจำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000 ถึง 20,000 บาท โดยอาจถูกลงโทษทั้งจำและปรับ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการกระทำและดุลพินิจของศาล
  2. พักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ – ศาลอาจสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ของผู้กระทำผิด หากเห็นว่าการกระทำนั้นมีความรุนแรงและมีความเสี่ยงต่อสังคม
  3. บำเพ็ญประโยชน์ – ในหลายกรณี ศาลจะสั่งให้ผู้กระทำผิดบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม เช่น การทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับการให้ความรู้ด้านความปลอดภัยทางถนน เพื่อให้ตระหนักถึงผลกระทบจากการเมาแล้วขับ
  4. โทษรุนแรงขึ้นหากเกิดอุบัติเหตุ – หากเมาแล้วขับและเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ผู้กระทำผิดอาจถูกลงโทษในระดับที่สูงขึ้น เช่น จำคุกหลายปีหรือโทษปรับที่เพิ่มขึ้นตามความรุนแรงของเหตุการณ์

แนวทางการป้องกันเมาแล้วขับ

  • วางแผนการเดินทาง – หากรู้ว่าจะมีการดื่มแอลกอฮอล์ ควรวางแผนการเดินทางล่วงหน้า เช่น ใช้บริการแท็กซี่หรือรถสาธารณะแทนการขับขี่
  • ใช้บริการคนขับรถ – การใช้บริการคนขับรถหรือให้เพื่อนที่ไม่ดื่มช่วยขับเป็นวิธีที่ปลอดภัย
  • รับผิดชอบต่อสังคม – เมาแล้วขับไม่ได้ส่งผลเพียงแค่ต่อตัวผู้ขับขี่ แต่ยังเสี่ยงต่อความปลอดภัยของทุกคนบนท้องถนน การหลีกเลี่ยงเมาแล้วขับจึงเป็นการช่วยสร้างสังคมที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  1. พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522
  2. พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551
  3. ประมวลกฎหมายอาญา (กรณีเกิดอุบัติเหตุ)

สรุป

เมาแล้วขับ เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยบนท้องถนนและเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุร้ายแรงในประเทศไทย การตระหนักถึงผลกระทบและบทลงโทษตามกฎหมายจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการเมาแล้วขับ การเลือกใช้วิธีเดินทางที่ปลอดภัยเมื่อมีการดื่มแอลกอฮอล์เป็นทางเลือกที่ดีกว่าการเสี่ยงขับขี่เอง

หากท่านไม่ได้รับความเป็นธรรมทางกฎหมาย ติดต่อ สำนักงานกฎหมาย อุดมคดี ที่
เบอร์ 082-583-8658
Line:@Udomkadee
Fanpage: https://www.facebook.com/UDOMKADEE