
ให้ยืมเงินแล้วไม่ได้คืน ต้องทำอย่างไร
วันนี้มีคำถามที่น่าสนใจเกี่ยวกับปัญหาเรื่องให้ยืมเงินแล้วไม่ได้คืน ซึ่งเป็นปัญหาพื้นฐานของคนเรา ที่จะต้องถูกยืมเงิน วันนี้ สำนักงานกฎหมาย อุดมคดี ได้รวบรวมคำถาม ให้ยืมเงินแล้วไม่ได้คืน ต้องทำอย่างไร โดยจะอธิบายกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และให้คำแนะนำเบื้องต้น ซึ่งมีข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงที่น่าสนใจอย่างไรนั้น ติดตามกันเลยครับ
โดยเรื่องนี้ มีข้อเท็จจริงว่า
“เจ้าของกระทู้ ให้ยืมเงินแล้วไม่ได้คืน ผิดนัด ขาดการติดต่อ มีการติดตามทวงถามแล้ว ส่วนใหญ่จะไปแจ้งความหรือฟ้องศาลไหมคะ“
การยืมเงิน ถือเป็นปัญหาที่ทนายความได้รับการสอบถามมากที่สุดเรื่องหนึ่งเลยครับ เพราะการยืมเงินเป็นเรื่องสังคมที่บุคคลทั้งสองฝ่ายสามารถหยิบยืมกัน ซึ่งตามหลักกฎหมายแล้ว การยืมเงิน มีหลักเกณฑ์ที่กฎหมายบัญญัติไว้อยู่ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 บัญญัติว่า “การกู้ยืมเงินกว่าสองพันบาทขึ้นไปนั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่ง ลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญ จะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่”
ซึ่งแปลได้ว่า หากมีการยืมเงินมากกว่า 2,000 บาท ต้องทำเป็นสัญญากู้ยืมเงิน และมีลายเซ็นต์ของผู้ยืมในสัญญาดังกล่าวด้วย จะมีลายเซ็นต์ของผู้ให้ยืมหรือไม่นั้น ไม่สำคัญ เพียงแต่ในเอกสารสัญญายืม ต้องมีเนื้อความที่อ่านแล้วเข้าใจว่าเป็นการกู้ยืมกันก็เป็นอันใช้ได้
หากผู้ยืมไม่คืนเงิน แจ้งความได้หรือไม่
หน้าที่ของพนักงานสอบสวน หรือตำรวจนั้น มีเพียงแต่รับแจ้งความร้องทุกข์แต่คดีอาญาเท่านั้น หากผู้เสียหายมีความประสงค์ไปแจ้งความ พนักงานสอบสวนหรือร้อยเวรจะทำได้เพียงลงบันทึกประจำวันไว้ให้เป็นหลักฐานเท่านั้น ไม่สามารถจะลงเป็นการรับแจ้งความไว้ให้ได้ เพราะกฎหมายบัญยัติอำนาจให้กับพนักงานสอบสวนไว้เช่นนั้น ดังนั้น หากผู้เสียหายเกิดปัญหาว่าตำรวจไม่รับแจ้งความในเรื่องทางคดีแพ่ง ก็เป็นเพราะกฎหมายไม่ให้อำนาจไว้นั่นเองนะครับ
ผู้ให้ยืมไปทวงเงินถึงบ้านผู้ยืม สามารถทำได้หรือไม่
การยืมเงินและการทวงถาม หากต้องการให้มีผลทางกฎหมาย จะต้องให้ทนายความทำเป็นหนังสือทวงถาม (Notice) ลงไปรษณีย์ตอบรับไปตามทะเบียนบ้านของผู้ยืม ดังนั้นการที่ผู้ให้ยืมไปทวงถามที่บ้านผู้ยืม สามารถทำได้อาจทำโดยวิธีสุภาพ ไม่ได้ใช้วาจาหรือท่าทางข่มขู่ หรือจะโทรสอบถามกันหรือทวงถามทางแชทไลน์กันก็ได้ เพราะเรื่องเงินกู้ยืม เป็นเรื่องส่วนตัวที่อาจจะสามารถประนีประนอมและขอผ่อนชำระกันได้โดยไม่จำเป็นต้องฟ้องร้องกัน
หากทวงถามแล้ว ผู้ยืมยังเพิกเฉย ทำอย่างไรได้บ้าง
การยืมเงินเป็นเรื่องทางแพ่ง ที่ตัวผู้ยืมและผู้ให้ยืมต้องไปใช้สิทธิเรียกร้องว่ากล่าวกันเองในทางชั้นศาล โดยท่านต้องติดต่อทนายความ และรวบรวมเอกสาร และพยานหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ให้ทนายความตั้งเรื่องยื่นฟ้องไป ซึ่งแปลว่า สามารถใช้สิทธิเรียกร้องโดยอาศัยอำนาจศาลโดยตรงนั่นเอง
ทำไมในข่าว การยืมเงินบางอย่างเป็นเรื่องฉ้อโกง
พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 4

เป็นลักษณะของการระดมทุน ให้ปรากฎแก่บุคคล 10 คนขึ้นไป ว่าเมื่อผู้เสียหายให้ยืมเงินแล้ว จะจ่ายเงินตอบแทน หรืออัตราดอกเบี้ยสูงกว่าที่สถาบันการเงิน จะพึงจ่ายได้ โดยรู้หรือควรรู้ว่าตนเอง หรือบุคคลอื่นนั้น จะนำเงินจากผู้ให้กู้มาจ่ายหมุนเวียนให้แก่ผู้ให้กู้ยืมเงิน โดยที่มไม่มีการประกอบธุรกิจใดๆ เมื่อพฤติการณ์เป็นลักษณะนี้ ถือได้ว่าเข้าองค์ประกอบการยืมเงินที่มีลักษณะฉ้อโกงประชาชน ซึ่งกลโกงในรูปแบบนี้ นับวันยิ่งมีความทวีคูณขึ้นทุกวัน โดยการหลอกให้ผลตอบแทนมาเป็นสิ่งล่อตาล่อใจกับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ กว่าจะรู้ตัวก็สูญเสียเงินไปหลายล้านบาทแล้ว และทุกวันนี้ ยิ่งทวีคูณความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น สำนักงานกฎหมาย อุดมคดี จึงขอให้ท่านอย่าหลงเชื่อ หากมีผู้หนึ่งผู้ใดชวนลงทุนแล้วให้ผลตอบแทนที่สูงแบบไม่มีที่มาที่ไป
ขั้นตอนในการฟ้องศาล
หากผู้ให้ยืม ต้องการจะเรียกเอาเงินที่ให้กู้ยืมคืน ต้องรวบรวมสัญญาเงินกู้ หรือหลักฐานการกู้ยืม ให้กับทนายความ เพื่อให้ตั้งเรื่องฟ้องร้องดำเนินคดีต่อไป ซึ่งอาจจะใช้เวลาประมาณ 3 – 5 เดือน ในศาลชั้นต้น หากเป็นกรณีที่ผู้กู้ยืมไม่เข้ามาสู้คดี หรือไกล่เกลี่ยขอประนีประนอมยอมความ และหากผู้ยืมมีความต้องการสู้คดีก็อาจจะใช้เวลานานกว่านั้น เนื่องจากต้องมีการนัดสืบพยานและทำคำพิพากษาต่อไป รวมๆแล้วประมาณหนึ่งปี เมื่อศาลได้ทำคำพิพากษาแล้ว ผู้ยืมยังไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษาอีก ผู้ให้ยืมในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจึงต้องตั้งเรื่องบังคับคดี เพื่อยึดอายัดทรัพย์กับลูกหนี้ตามคำพิพากษาต่อไป
ค่าใช้จ่าย ในขั้นตอนดำเนินการทางคดี
1. ค่าธรรมเนียมศาลในกรณีทุนทรัพย์ฟ้องไม่เกินแสนบาท เสียค่าธรรมเนียมศาล 1,000 บาท หากเกินสามแสนบาท เสียในอัตราร้อยละ 2 ของจำนวนทุนทรัพย์
2. ค่านำหมาย (สามารถเช็คในระบบศาลได้)
3. ค่าทนายความ (แล้วแต่ตกลง)
หากท่านไม่ได้รับความเป็นธรรมทางกฎหมาย ติดต่อ สำนักงานกฎหมาย อุดมคดี ที่
เบอร์ 082-583-8658
Line:@Udomkadee
Fanpage: https://www.facebook.com/UDOMKADEE
